“ลีซอ” จบบริบูรณ์ 20 ปี

20 ปีเต็มบนถนนพ่อค้าแข้งอาชีพ นานพอ ๆ กับที่ผมทำข่าวกีฬามากว่า 2 ทศวรรษ ในที่สุด ไอ้หนู ลีซอ  ธีรเทพ วิโนทัย หรือ “เจ้าซอ” ที่เราผู้รายงานข่าวสายบอล (ไทย) คุ้นเคยกันดี

เนื่องจากเจ้าตัวมีพ่อเป็นอดีตสื่อกีฬารุ่นเก๋า อย่าง “พี่เทพ” เทพชัย วิโนทัย ที่คอยปลุกปั้นลูกชายสุดที่รัก..มาตั้งแต่อ้อนแต่ออก

ก็ปิดฉากชีวิตนักฟุตบอลของตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 37 ปี

โดยทิ้งทวนสังหารจุดโทษเป็นประตูชัยให้ทีมโปลิศ เทโร เชือดชนะ “สวาทแคท” นครราชสีมา 1-0

จารึกประตูที่ 96 บนเวทีไทยลีก เก็บ 3 คะแนนเต็ม ในแมตช์ส่งท้ายเลกแรก ต่อหน้าต่อตาสาวกมังกรโล่เงินที่สนามบุณยะจินดา

จบตำนานของยอดนักฟุตบอลที่ได้ชื่อว่าสร้างสีสันให้กับฟุตบอลไทยมากที่สุดคนนึงในประวัติศาสตร์

ธีรเทพ วิโนทัย

เรื่องราวของ ลีซอ บนเส้นทางสายลูกหนัง มีมากมายเหลือเกินครับ

เรียกว่าเขียนชี้แจงออกมาเป็นตัวหนังสือให้อ่านกัน ก็น่าจะเป็น “พ็อกเก็ตบุ๊ก” ฉบับ Best seller เราดีๆนั่นเอง!

ครั้งนึงมีคนเคยเปรียบเทียบเทียบ “เจ้าซอ” ราวกับ “ทุเรียนพันธุ์ดี” ที่มีทั้งยังคนรัก และก็คนไม่ถูกใจพอ ๆ กัน

จนกระทั่งวันสุดท้ายเมื่อเจ้าตัวต้องอำลา หญ้าเลิกเล่นไปจริง ๆ เชื่อว่าแฟนบอลจำนวนมากใจหาย

เนื่องจากอันที่จริงทุกคนต่างก็รักและก็ ผูกพันในตัวเขาด้วยกันทั้งนั้น!

ด้วยความที่ผมสนิท และก็รู้จักมักคุ้น กับครอบครัว “วิโนทัย” ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่..นี่แหละ

ทำให้พอจะทราบถึงเบื้องหลังความสำเร็จในทุกช่วงชีวิตของ ลีซอที่มีผู้ใหญ่หลายคน คอยอุปถัมภ์คำ้ชูเจ้าตัว ไม่เคยขาด

ไม่ว่าจะเป็น นายไบรอัน มาคาร์ ประธานสโมสรบีอีซีเทโรศาสน

ผู้เปิดประตู บานแรก สู่การเป็นนักฟุตบอล อาชีพให้กับเจ้าซอ อย่างเต็มกำลัง ตั้งแต่ยุควัยทีน ที่เขามาเริ่มกับยอดทีมดังแดนหนองจอกแห่งนี้

จนถึงได้รับสมญานามให้เป็น “เจ้าชายมังกรไฟ” ตัวจริง เสียงจริง

และก็ยังอ้าแขนต้อนรับ ลีซอคืนสู่เหย้า ในช่วงบั้นปลายอีกที ทำให้เจ้าตัวได้กลับมาแขวนสตั๊ดภายใต้สีเสื้อเทโรสมใจ

เจ้าซอ

ส่วนอีกคน ที่ลืมไม่ได้ เนื่องจากเป็นผู้ให้โอกาส “ธีรเทพ วิโนทัย” เข้ามามีชื่ออยู่ในทีมชาติไทย 17 ปีชุดลุยศึกฟุตบอล เยาวชนโลก ที่นิวซีแลนด์

เขาคนนั้น คือ “น้าติ๊ก” โค้ชสมชาติ ยิ้มศิริ ที่ตัดสินใจหนีบเอาไอ้หนูนักฟุตบอลวัยเพียงแค่ 14 ปีไปลุยแดนกีวีด้วย

ท่ามกลางคำครหาเรื่อง “เด็กเส้น” ที่ลอยมาเข้าหูอยู่เสมอ

แต่ยอดโค้ชผู้ดูการณ์ไกล…ก็ไม่สน เนื่องจากมั่นใจว่า “ไอ้เทพ” (ชื่อที่น้าติ๊ก เรียกลีซอมาตลอด) ลูกศิษย์รัก..ผู้นี้

จะเติบโตไปเป็นอย่างยิ่งสำคัญของทีมชาติได้แน่ ๆ ในวันข้างหน้า

ซึ่งปรมาจารย์ลูกหนัง อย่าง “น้าติ๊ก” ก็มองไม่ผิดจริงๆ

ด้วยเหตุว่าในเวลาต่อมา ลีซอธีรเทพ พัฒนาตัวเองจนถึงก้าวขึ้นไปเป็นซุปเปอร์สตาร์เต็มกำลังในทีมช้างศึกดูเหมือนจะทุกชุด..เลยก็ว่าได้

ผู้ใหญ่อีกคน ที่มีบุญคุณล้นเหลือต่อ “เจ้าซอ” ซึ่งหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบ

แต่ผมขอยืนยันว่าหากไม่มีบุคคลท่านนี้ เราอาจจะไม่ได้มองเห็น ลีซอขึ้นหิ้งมาเป็นตำนานลูกหนังอย่างทุกวันนี้ก็เป็นได้

นั่นก็คือ “พี่วิ” ระวิ โหลทอง บิ๊กบอสใหญ่แห่งอาณาจักรสยามสปอร์ต ที่ทุกคนรู้จักกันดี

ซึ่งเป็นผู้ที่คอยสนับสนุน ทั้งยังผลักทั้งดันทุกวิถีทาง ให้ไอ้หนูลีซอได้มีโอกาสไปเป็นนักฟุตบอลฝึกฝนในทีมเยาวชนคริสตัลพาเลซ บนเกาะอังกฤษ

ทำให้เจ้าตัวบ่มเพาะเรียนรู้วิถีการเป็น “นักฟุตบอลอาชีพ” ที่มุ่งมั่น ทุ่มเท และก็มี PASSION เกินร้อยแรงม้า ทุกครั้งที่ลงสนาม จนถึงเป็นนิสัยติดตัวมาโดยตลอด

ไอ้หนู ลีซอ

เท่านั้นยังไม่พอ ตอนที่ “เจ้าซอ” กลับจากการค้าแข้งกับ เค ลีเซ ในลีกเบลเยียม

ก็เป็น “พี่วิ” อีกนั่นแหละ ที่ดึงเขา มาร่วมทัพ “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด จนถึงสามารถคว้า แชมป์ไทยลีก มาครองได้สำเร็จ

มาถึงคนสำคัญที่สุด . . . ที่อยู่เบื้องหลังลีซอ ในทุกเรื่องราวของชีวิต ตั้งแต่ลืมตาดูโลกมาจนกระทั่งทุกวันนี้…

ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ เว้นแต่คุณพ่อเทพชัย และก็คุณแม่แม้ว พรสมจิต วิโนทัย

ที่ยืนเคียงข้างคอยเป็น “ลมใต้ปีก” ของลูกชายสุดที่รัก..มาโดยตลอด

ภาพของวัน อำลาสนาม ที่ตำนาน “หมายเลข 14” ก้มลงไป กราบแทบเท้าพ่อมารดาบังเกิดเกล้า หลังเกมจบลง

นับเป็นภาพประทับใจ ที่ทำให้วันสุดท้าย ในการเป็นนักฟุตบอลของ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย

จบบริบูรณ์ลงไปแล้ว…ชนิดสุดเพอร์เฟกต์ อย่างแท้จริง !!!